7 สิ่งที่ประกันรถยนต์ไม่คุ้มครอง แต่เรามักไม่รู้?

ประกันชั้น 1 ที่เรามัก เข้าใจว่าเป็นประกันภัยรถยนต์ที่ คุ้มครอง แบบครอบคลุมสูงสุด  แต่รู้หรือไม่ว่ายังมีข้อยกเว้นมากมายที่ประกันไม่คุ้มครอง มีอะไรกันบางเช็คตามนี้ได้เลย

1.     นำรถส่วนตัวไปใช้ในเชิงพาณิชย์  ในยุคนี้เชื่อว่าหลายๆคน อาจนำรถส่วนตัวไปวิ่ง แกรป หรือไลน์แมนเพื่อหาเงินเพิ่ม แต่สิ่งที่ต้องระวังคือ การที่เรานำรถไปใช้ในเชิงพาณิชย์ ซึ่งถ้าหากเกิดอุบัติเหตุใด ๆ ก็ตาม ทางบริษัทประกันอาจไม่ชดใช้ความเสียหายให้กับผู้เอาประกัน เนื่องจากถือว่า ละเมิดเงื่อนไขในกรมธรรม์

2.     เมาสุรา หรือมมีการใช้ยาเสพติด ซึ่งปัจจุบันมีการเปลี่ยนมาตรฐานการเป่าวัดแอลกอฮอล์ใหม่ หากพบว่ามีแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่าที่กำหนดจะถือว่าเมาแล้วขับ และมีความผิดทางกฎหมาย

·        ระดับเกิน 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ในกรณีที่ผู้ขับขี่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์, บุคคลที่มีใบขับขี่ชั่วคราว (มือใหม่ใบอนุญาตขับขี่ยังไม่ถึง 2 ปี), บุคคลที่ไม่มีใบขับขี่, บุคคลที่โดนพักหรือเพิกถอนใบขับขี่

·        ระดับเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ในกรณีที่บุคคลที่มีใบขับขี่ตลอดชีพหรือใบขับขี่ 5 ปี และมีอายุเกิน 20 ปี

3.     ไม่มีใบขับขี่ กรณีไม่มีใบขับขี่ หรือไม่เคยไปสอบเลย ประกันจะไม่รับผิดชอบทุกกรณี แต่ถ้าใบขับขี่ หมดอายุ หรือหาย อันนี้ประกันจะรับผิดขอบความเสียหายปกติ

4.     นำไปลากจูงจนเกิดความเสียหาย หากนำรถไปลากจูง แล้วเกิดความเสียหายขึ้นระหว่างที่ลากจูง อันนี้ประกันจะไม่คุ้มครอง

5.     ชนกับรถของคนในครอบครัว กรณีเป็นเจ้าของป้ายทะเบียนรถเป็นชื่อเดียวกัน หากเกิดอุบัติเหตุรถชนกันเองภายในบ้าน แล้วปรทะเบียนรถทั้งสองคันเป็นชื่อเจ้าของคนเดียวกัน บริษัทประกันรถยนต์จะ ไม่คุ้มครองรถของคู่กรณี เพราะว่าไม่ถือเป็นบุคคลภายนอกตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ แต่ประกันรถยนต์ชั้น 1 จะยังคุ้มครองเฉพาะรถของผู้เอาประกัน หรือก็คือ 1 คัน ส่วนประกันรถยนต์ชั้น 2+ และ 3+ ผู้เอาประกันต้องจ่ายค่าเสียหายเอง

กรณีเป็นพ่อลูกกัน อุบัติเหตุรถพ่อชนรถลูก เช่น ถอยชนกันในบ้าน ระหว่างจอดรถ 

กรณีนี้บริษัทประกันรถยนต์จะไม่เคลมค่าเสียหายให้กับคู่กรณี แต่จะเคลมเฉพาะค่าเสียต่อที่เกิดขึ้นกับตัวรถยนต์เท่านั้น

กรณีเป็นพี่น้องกัน ในกรณีที่เป็นพี่น้องกันสามารถเรียกค่าเสียหายจากบริษัทประกันรถยนต์ได้ตามปกติ

6.     นำรถไปแข่ง ถ้าเรานำรถยนต์ไปแข่งขันความเร็วไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันในสนามที่ถูกกฎหมาย หรือ การจัดการแข่งขันเองแบบไม่ถูกกฎหมาย แล้วรถเกิดการเสียหลักเกิดอุบัติเหตุ จะไม่สามารถแจ้งเคลมประกันได้

7.     นำไปใช้ในทางผิดกฎหมาย การนำรถไปใช้ในการทำสิ่งผิดกฎหมาย ประกันจะไม่คุ้มครองใดๆทั้งสิ้น

หากเช็คแล้วไม่อยู่ในเงื่อนไขข้างต้น ก็สบายใจได้ว่า จะได้รับสินไหมจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น  และหากท่านเป็นฝ่ายถูกยังสามารถเบิกค่าขาดประโยชน์ เพื่อนำมา เช่ารถใช้ระหว่างซ่อม ได้อีกด้วย
กรณีที่เราไม่ได้รับความเป็นธรรมในกรณีใดๆ เราสามารถฟ้องไปยัง คปภ. ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลและช่วยเหลือโดยตรงได้